วันอังคารที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2553

Aucifer's KaikanPhrase


Aucifer~Kaikan phrase





kaikan Phrase- something beautiful




Kaikan Phrase episode 33[1/4]

Aucifer's Live

Lucifer - Labyrinth





Lucifer BLACK SHADOW





Lucifer Desire






/\ucifer - Dummy LIVE



Lucifer - Rinne no Hitomi




/\ucifer - LOVE & PAIN LIVE




Aucifer - See You (Acoustic)




Lucifer - See You (Live Be-trip 2001)




/\ucifer - Cの微熱 live


แถม อิอิ ^O^

http://www.youtube.com/watch?v=H5xT6u7RXA0&feature=related

Aucifer's PV

Regreat-Aucifer[Album:The best]



Aucifer - Tsubasa





Aucifer-TSUBASA [PV]




/\ucifer - JUNK CITY PV




Lucifer Realize





/\ucifer - Datenshi Blue




Λucifer - LIMIT CONTROL - Midnight Crow




/\ucifer- C no binetsu




/\ucifer- Tokyo Gensou (Illusion)




/\ucifer - CARNATION CRIME PV




/\ucifer- Hyper




Λucifer - LIMIT CONTROL - Silent Melody




Λucifer - LIMIT CONTROL - Sekai de ichiban kirei na mono




/\ucifer - Lucy

Aucifer's Lyrics

Lucifer

TSUBASA

Sayonara Utopia
Usotsuki-na hikari to kage
Bokura wa me o samashi
Hodokareta nageki no naka
Kokoro ni kaze o atsumete
Toberu hi o matte iru
ลาแล้วเอย Utopia
ทั้งแสงและเงาที่เป็นสิ่งหลอกลวง
พวกเราตาสว่าง
ท่ามกลางเสียงถอนหายใจที่ถูกปลดปล่อย
รวบรวมสายลมมาไว้ในหัวใจ
แล้วเฝ้ารอคอยวันที่จะสามารถโบยบินไป

I wanna let you fly so high
Nureta TSUBASA
Namida shimi-konde-ru sei sa
Samishisa kara nige-dasetemo
Mada yumi ni todokanai
Mayou kimi ga kimi o sagasu
Odessei wa ima hajimaru
Daki-shimero GLORIOUS

I wanna let you fly so high
ปีกอันเปียกปอน
เป็นเพราะคราบรอยที่แปดเปื้อนของน้ำตา
แม้จะหนีไกลห่างจากความว้าเหว่ได้
ก็ยังไปไม่ถึงซึ่งความฝัน
เธอที่หลงทางตามหาตัวเธอเอง
มหากาพย์ Odyssey ได้เริ่มขึ้นแล้ว
ตระกรองกอด GLORIOUS

Haato o ishi ni suru
Tsuioku no medyuusa tachi
Kono mama nemuretara
Eien wa yasashii kedo
Dokoka de betsu no jibun ga
Joonetsu to abarete-ru
I wanna let you fly so high
Moeru TSUBASA
Fuan na no wa kimi dake janai
Mirai kara no kaze o atsume
Moo ichi do mai-agare fly away
ทำหัวใจให้แข็งเป็นหิน
เหล่า Medusa แห่งความทรงจำ
หากได้หลับไหลไปอย่างนี้
นิรันดรอาจจะอ่อนโยน
แต่มีตัวตนอีกตัวของฉัน
กำลังอาละวาดด้วยความร้อนแรงที่ไหนสักแห่ง
I wanna let you fly so high
ปีกที่เผาไหม้
ที่กังวลไม่ได้มีเพียงเธอ
รวบรวมสายลมจากอนาคต
แล้วบินขึ้นอีกครั้ง fly away


Regret

hateshi-naku tsuzuku yuyami ni
somatte-ku hitori kiri kaze ni tsutsumarete
tsuyogari no serifu bakari
narabe-tatete kimi o kizu tsuketa

เมื่อโลกย้อมสีด้วยสนธยาที่ไร้ที่สิ้นสุด
ฉันอยู่ท่ามกลางสายลมเพียงลำพังคนเดียว
ด้วยคำพูดที่เต็มไปด้วยทิฐิ
ได้ทำร้ายจิตใจของเธอ

warui no wa boku no ho sa
dakedo sunao ni narenakatta yo
tsumeta-sugiru heya ni nokosarete-ru
kimi no ato o sagasu boku ga irun da koko ni
koi-shikute mune ga kurushii
ฉันเองเป็นฝ่ายที่ผิด
แต่ฉันก็ยังซื่อสัตย์ต่อตนเองไม่ได้
ในห้องที่เยือกเย็น
ฉันตามหาร่องรอยของเธอ ฉันอยู่ที่นี่
ด้วยความรัก หัวใจจึงปวดร้าว
dare yori mo taisetsu-na kimi datta
setsunakute tada setsuna-sugite
modorenai unmei o mune ni daki-shimete
shiroi mado no muko-gawa
ima demo egao no kimi ga mieru
เธอที่เป็นคนสำคัญกว่าใคร
เจ็บปวด เจ็บปวดจนเกินไป
ต้องแบกรับโชคชะตาที่ไม่หวนคืนไว้แนบอก
อีกด้านหนึ่งของหน้าต่างสีขาว
แม้บัดนี้ยังเห็นเธอยิ้มอยู่
totsuzen ni kiri-sakareta
yasashii jikan ga yomigaette-ku
zutto kimi o daki-shimete itakatta yo
yume no naka demo ii kimi ni aitai sugu ni
kienai de mune ga kurushii
sayonara mo tsutaenai mama datta
จู่จู่เวลาที่แสนหวานที่ขาดสะบั้นไป
เหมือนย้อนกลับคืนมา
อยากจะโอบกอดเธอไว้ตลอดไป
แม้แค่เพียงในฝัน ยังอยากจะพบเธอในบัดดล
อย่าได้จางหายไป หัวใจช่างปวดร้าว
แม้คำลาก็ยังมิได้เอ่ย
itoshikute tada itoshi-sugite
ushinatta shinjitsu o mitsumerarenakute
setsunakute tada setsuna-sugite
modorenai unmei o dakishime
แสนรัก เพียงแต่แสนรักเกินไป
จนมิอาจมองจ้องความจริงที่สูญเสียไปได้
เจ็บปวด เจ็บปวดจนเกินไป
ต้องแบกรักโชคชะตาที่ไม่หวนคืน
koi-shikute mune ga kurushii
dare yori mo taisetsu-na kimi datta
aitakute tada setsuna-sugite
modosenai unmei o mune ni dakishimete
ด้วยความรัก หัวใจจึงปวดร้าว
เธอที่เป็นคนสำคัญกว่าใคร
อยากจะพบ เพียงแค่ปวดร้าวเกินไป
ต้องแบกรับโชคชะตาที่หวนคืนไม่ได้ไว้แนบอก

Aucifer's Albums

ผลงานของ Λucifer (CD / Single)
Datenshi BLUE (Single)
1999/09/15 (Oricon Chart สูงสุด 16)
เนื้อร้อง: ยูกิโนะโจ โมริ, ทำนอง: TAKUYA
c/w Silent Melody
เนื้อร้อง: ยูกิโนะโจ โมริ, ทำนอง: TAKUYA
C no Binetsu (Single)
1999/11/3 (Oricon Chart สูงสุด 8)
เนื้อร้อง: ยูกิโนะโจ โมริ, ทำนอง: CHISATO
c/w PLASMAGIC
เนื้อร้อง: ยูกิโนะโจ โมริ, ทำนอง: CHISATO
TOKYO Illusion/LUCY (Single)
2000/2/16 (Oricon Chart สูงสุด 11)
เนื้อร้อง: ยูกิโนะโจ โมริ, ทำนอง: TAKUYA
c/w LUCY
เนื้อร้อง: ยูกิโนะโจ โมริ, ทำนอง: ATSURO

CARNATION CRIME (Single)
2000/6/7 (Oricon Chart สูงสุด 9)
เนื้อร้อง: ยูกิโนะโจ โมริ, ทำนอง: TAKUYA
c/w DUMMY Live ver. & Midnight Crow Live
ver.

JUNK CITY (Single)
2000/8/2 (Oricon Chart สูงสุด 9)
เนื้อร้อง: ยูกิโนะโจ โมริ, ทำนอง: CHISATO
c/w Rinne no Hitomi
เนื้อร้อง: ยูกิโนะโจ โมริ, ทำนอง: TAKUYA
TSUBASA (Single),
2000/11/8 (Oricon Chart สูงสุด 11)
เนื้อร้อง: ยูกิโนะโจ โมริ, ทำนอง: TAKUYA
c/w See You
เนื้อร้อง: MAKOTO, ทำนอง: ATSURO
Hypersonic Soul (Single)
2001/8/1 (Oricon Chart สูงสุด 16)
เนื้อร้อง: ยูกิโนะโจ โมริ, ทำนอง: TAKUYA
c/w CASTAWAYS
เนื้อร้อง: ยูกิโนะโจ โมริ, ทำนอง: ATSURO
Regret (Single)
2002/2/6 (Oricon Chart สูงสุด 18)
เนิ้อร้อง: MAKOTO, ทำนอง: ATSURO & MASAKI
c/w Heavy Style
เนื้อร้อง: SANTA&TOWA, ทำนอง: SANTA
Realize (Single)
2002/8/7 (Oricon Chart สูงสุด 15)
เนิ้อร้อง: MAKOTO, ทำนอง: MAKOTO
c/w Kono te no naka ni
เนื้อร้อง: TOWA, ทำนอง: TOWA

ผลงานของ ucifer (CD / Album)
LIMIT CONTROL (1st Album)
1999/12/8 (Oricon Chart สูงสุด 6)
1. LEGEND
ทำนอง: TAIZO
2. Datenshi BLUE
เนื้อร้อง: ยูกิโนะโจ โมริ, ทำนอง: TAKUYA
3. PLASMAGIC
เนื้อร้อง: ยูกิโนะโจ โมริ, ทำนอง: CHISATO
4. Sekai de ichiban kirei na mono
เนื้อร้อง: ยูกิโนะโจ โมริ, ทำนอง: TAKUYA
5. C no Binetsu
เนื้อร้อง: ยูกิโนะโจ โมริ, ทำนอง: CHISATO
6. Silent Melody
เนื้อร้อง: ยูกิโนะโจ โมริ, ทำนอง: TAKUYA
7. DUMMY
เนื้อร้อง: ยูกิโนะโจ โมริ, ทำนอง: TAKUYA
8. Midnight Crow
เนื้อร้อง: ยูกิโนะโจ โมริ, ทำนอง: IPPEI
9. Dakishimeru hoka ni nani ga dekirun darou?
เนื้อร้อง: ยูกิโนะโจ โมริ, ทำนอง: IPPEI
BEATRIP (2nd Album)
2001/2/21 (Oricon Chart สูงสุด 10)
1. Chiraiya
เนื้อร้อง: ยูกิโนะโจ โมริ, ทำนอง: TAKUYA
2. Furueru Magma
เนื้อร้อง: ยูกิโนะโจ โมริ, ทำนอง: TAKUYA
3. LOVE & PAIN
เนื้อร้อง: ยูกิโนะโจ โมริ, ทำนอง: SANTA
4. TOKYO Illusion
เนื้อร้อง: ยูกิโนะโจ โมริ, ทำนอง: TAKUYA
5. LUCY
เนื้อร้อง: ยูกิโนะโจ โมริ, ทำนอง: ATSURO
6. CARNATION CRIME
เนื้อร้อง: ยูกิโนะโจ โมริ, ทำนอง: TAKUYA
7. Egovision
เนื้อร้อง: ยูกิโนะโจ โมริ, ทำนอง: TAKUYA
8. JUNK CITY
เนื้อร้อง: ยูกิโนะโจ โมริ, ทำนอง: CHISATO
9. TSUBASA
เนื้อร้อง: ยูกิโนะโจ โมริ, ทำนอง: TAKUYA
10. SHELTER
เนื้อร้อง: ยูกิโนะโจ โมริ, ทำนอง: TAKUYA
ELEMENT OF LOVE (3rd Album)
2002/3/13 (Oricon Chart สูงสุด 17)
1. ELEMENTS
ทำนอง: ATSURO
2. Jealousy
เนื้อร้อง: MAKOTO, ทำนอง: ATSURO
3. Desire
เนื้อร้อง: MAKOTO, ทำนอง: MAKOTO&MASAKI
4. Regret
เนื้อร้อง: MAKOTO, ทำนอง: MAKOTO&MASAKI
5. Orange
เนื้อร้อง: TOWA, ทำนอง: TOWA
6. BLACK SHADOW
เนื้อร้อง: ATSURO, ทำนอง: ATSURO
7. Graduation
เนื้อร้อง: MAKOTO, ทำนอง: MAKOTO&ATSURO
8. Poker Face
เนื้อร้อง: MAKOTO, ทำนอง: YUKI
9. Shooting Star
เนื้อร้อง: MAKOTO&YUKI, ทำนอง: YUKI
10. Hypersonic Soul
เนื้อร้อง: ยูกิโนะโจ โมริ, ทำนอง: TAKUYA
11. LABYRINTH
เนื้อร้อง: TOWA, ทำนอง: ATSURO
12. Except
เนื้อร้อง: SANTA, ทำนอง: SANTA
THE BEST (LAST ALBUM)
2002/12/5 (Oricon Chart สูงสุด 15)
1. Datenshi BLUE
2. C no Binetsu
3. TOKYO Illusion
4. LUCY
5. Midnight Crow
6. CARNATION CRIME
7. JUNK CITY
8. LOVE & PAIN
9. TSUBASA
10. Hypersonic Soul
11. Egovision
12. Regret
13. Shooting Star
14. Desire
15. Realize
16. See You
17. HURRY (Bonus Track)

Aucifer 's News

Λucifer 10th Anniversary Live In Bangkok 2010





ต้อนรับการกลับมาอย่างยิ่งใหญ่ ของวงร็อคขวัญใจชาวไทย “ ลูซิเฟอร์ ” (Λucifer) วงดนตรีแนว Visual Rock ที่จะมาจัดบิ๊กคอนเสิร์ตฉลองครบรอบ 10 ปี ที่เมืองไทยเป็นประเทศแรกในเอเชีย ในคอนเสิร์ต “ucifer 10th Anniversary Live In Bangkok 2010” ณ อินดอร์ สเตเดี้ยม หัวหมาก ในวันที่ 25 กันยายนที่จะถึงนี้

ลูซิเฟอร์เป็นวงดนตรีแนว Visual Rock ที่เกิดจากการ์ตูนเรื่อง Kaikan Phrase หรือ “จังหวะร็อค ดนตรีรัก” ที่วัยรุ่นไทยรู้จักกันเป็นอย่างดี โดยสมาชิกของวงใช้ชื่อเดียวกับตัวละครในเรื่องแทนชื่อจริงของตัวเอง ทำให้ลูซิเฟอร์โด่งดังขึ้นอย่างรวดเร็วทั้งในญี่ปุ่น และ ไทย

งานนี้สาวกเจ-ร็อคไม่ควรพลาดกับคอนเสิร์ต Λucifer 10th Anniversary Live In Bangkok 2010 ครบรอบ 10 ปี ของวงลูซิเฟอร์ ในเมืองไทย หลังจากที่ มาโกโตะ , ยูกิ , โทวะ , อัทซึโร่ และ ซันตะ ประกาศรวมวงกันเฉพาะกิจอีกครั้ง และเลือกเมืองไทยเป็นประเทศแรก ของการโชว์คอนเสิร์ตเฉลิมฉลอง 10 ปีของวงนอกประเทศ ด้วยเหตุผลที่พวกเขาแสดงคอนเสิร์ตอำลาครั้งสุดท้ายเมื่อ 7 ปีที่แล้วที่เมืองไทย เมื่อสมาชิกทั้ง 5 กลับมารวมตัวอีกครั้ง ฝีมือทางดนตรีของพวกก็เปลี่ยนไปอย่างที่เราคาดไม่ถึง แฟนเพลงชาวไทยจะได้ดูคอนเสิร์ตสไตล์เจ-ร็อคที่อัดแน่นด้วยการเล่นดนตรีและการร้องกันอีกครั้ง คอนเสิร์ตครั้งนี้จะเป็นปรากฏการณ์ที่ยิ่งใหญ่ เพราะ 5 หนุ่ม เตรียมโชว์มาอย่างเต็มที่เพื่อแฟนๆ ชาวไทยที่รอคอยมากว่า 7 ปี

ประวัติวง Λucifer

Λucifer หรือ Lucifer (ลูซิเฟอร์) เป็นวงร็อคจากญี่ปุ่นที่รู้จักกันดี เนื่องจากเป็นวงที่ถูกก่อตั้งขึ้นจากหนังสือการ์ตูน และอนิเมชั่นชื่อดังของญี่ปุ่นเรื่อง Kaikan Phrase (หรือชื่อไทย จังหวะร็อคดนตรีรัก) วงได้รวมตัวกันในปี 1999 และตัดสินใจยุบวงไปเมื่อช่วงต้นปี 2003 พวกเขาเปิดตัวเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 15 กันยายน ปี 1999 ด้วยซิงเกิ้ลสุดฮิต Datenshi BLUE (ดาเท็นชิ บลู) และกลายเป็นวงที่ได้รับความนิยมมาตั้งแต่นั้น

ลูซิเฟอร์ เป็นวงที่รวมตัวกันในครั้งแรกเพื่อที่โปรโมตอนิเมชั่นเรื่อง Kaikan Phrase โดยอนิเมชั่นดังกล่าวนั้นถูกสร้างขึ้นจากหนังสือการ์ตูนของสำนักพิมพ์ Shojo Manga โดยนักเขียน Mayu Shinjo โดยสมาชิกของวง

ลูซิเฟอร์จริงๆนั้นเปลี่ยนชื่อเพื่อที่จะให้เข้ากับต้นฉบับ ที่เป็นทั้งอนิเมชั่นและหนังสือการ์ตูน ยกเว้นแค่ตัวนักร้องนำเท่านั้น ที่ยังคงใช้ชื่อเดิมของตัวเองแทนที่จะเปลี่ยนเป็น Sakuya (ชื่อพระเอกในเรื่อง) เพลงหลายๆเพลงของลูซิเฟอร์ นั้นถูกนำไปใช้ในอนิเมชั่น พร้อมๆกับเพลงจากวงเจร็อคชื่อดังหลายๆวง ไม่ว่าจะเป็น GLAY, FEEL และ e.MU และแม้ว่าอนิเมชั่นจะจบลงไปแล้ว วงก็ยังคงมีผลงานออกมาอย่างต่อเนื่อง

จนกระทั่งในวันที่ 25 ตุลาคม ปี 2002 สองปีครึ่งหลังจากที่อนิเมชั่นจบลง วงก็ตัดสินใจประกาศแยกวง หลังการประกาศครั้งนั้น พวกเขาเดินสายทัวร์คอนเสิร์ตครั้งสุดท้าย โดยใช้ชื่อทัวร์ว่า “Λucifer Last Live 2002-2003 Energy" ที่มีขึ้นตั้งแต่วันที่ 16 ธันวาคม 2002 ถึง 10 มกราคม 2003 คอนเสิร์ตดังกล่าวจัดขึ้นทั้งหมด 9 รอบ หลังจากนั้น พวกเขาก็ไปออกรายการมิวสิกโชว์ทางทีวีเป็นครั้งสุดท้ายซึ่งก็คือราΛยการ PopJam เมื่อวันที่ 11 มกราคม 2003 และปิดการแสดงคอนเสิร์ตครั้งสุดท้าย (ซึ่งก็ถือเป็นการโชว์นอกประเทศครั้งสุดท้ายของพวกเขาด้วย) ที่ Impact Arena เมืองทองธานี กรุงเทพฯ ไปเมื่อวันที่ 19 มกราคม ปีเดียวกันนั้นเอง

ในตอนแรก งานอัลบั้มแรกของพวกเขานั้น ก็ได้ศิลปินอย่าง Takuya Asanuma (จากวง JUNDY AND MARY), Chisato (วง Penicillin) และ IPPEI & TAIZO (จากวง FEEL) มาช่วยในส่วนของดนตรีด้วย แต่หลังจากนั้น สมาชิกในวงก็เริ่มทำเพลงกันเอง จนกระทั่งมาถึงงานอัลบั้มชุดที่สาม เกือบจะทุกเพลงในอัลบั้มแต่งขึ้นโดยสมาชิกในวงแทบจะทั้งหมด



TICKET INFORMATION

สถานที่แสดงอินดอร์ สเตเดียม หัวหมาก
ที่ตั้งสถานที่ถนนรามคำแหง หัวหมาก บางกะปิ
รอบการแสดง :
วันแสดง
เวลาแสดง
วันเสาร์ที่ 25 กันยายน 2553
19.30 น.
ประตูเปิดก่อนการแสดงเริ่มประมาณ 30 นาที
ระยะจำหน่ายบัตร

ตั้งแต่ วันเสาร์ที่ 7 สิงหาคม มิถุนายน 2553 เป็นต้นไป
ทุกช่องทางการจำหน่าย
(เริ่มจำหน่ายบัตรวันแรกเวลา 10.00 น.)
+ + รับบัตรจริงได้ตั้งแต่วันที่ 4 กันยายน เป็นต้นไป + +

บัตรราคา3,000 บาท
2,000 บาท
1,200 บาท
800 บาท
ผังที่นั่ง

Aucifer : Profile

ประวัติวง ucifer

ucifer หรือ Lucifer (ลูซิเฟอร์) เป็นวงร็อคจากญี่ปุ่นที่รู้จักกันดี เนื่องจากเป็นวงที่ถูกก่อตั้งขึ้นจากหนังสือการ์ตูน และอนิเมชั่นชื่อดังของญี่ปุ่นเรื่อง Kaikan Phrase (หรือชื่อไทย จังหวะร็อคดนตรีรัก) วงได้รวมตัวกันในปี 1999 และตัดสินใจยุบวงไปเมื่อช่วงต้นปี 2003 พวกเขาเปิดตัวเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 15 กันยายน ปี 1999 ด้วยซิงเกิ้ลสุดฮิต Datenshi BLUE (ดาเท็นชิ บลู) และกลายเป็นวงที่ได้รับความนิยมมาตั้งแต่นั้น

ลู ซิเฟอร์ เป็นวงที่รวมตัวกันในครั้งแรกเพื่อที่โปรโมตอนิเมชั่นเรื่อง Kaikan Phrase โดยอนิเมชั่นดังกล่าวนั้นถูกสร้างขึ้นจากหนังสือการ์ตูนของสำนักพิมพ์ Shojo Manga โดยนักเขียน Mayu Shinjo โดยสมาชิกของวง

ลูซิเฟอร์ จริงๆนั้นเปลี่ยนชื่อเพื่อที่จะให้เข้ากับต้นฉบับ ที่เป็นทั้งอนิเมชั่นและหนังสือการ์ตูน ยกเว้นแค่ตัวนักร้องนำเท่านั้น ที่ยังคงใช้ชื่อเดิมของตัวเองแทนที่จะเปลี่ยนเป็น Sakuya (ชื่อพระเอกในเรื่อง) เพลงหลายๆเพลงของลูซิเฟอร์ นั้นถูกนำไปใช้ในอนิเมชั่น พร้อมๆกับเพลงจากวงเจร็อคชื่อดังหลายๆวง ไม่ว่าจะเป็น GLAY, FEEL และ e.MU และแม้ว่าอนิเมชั่นจะจบลงไปแล้ว วงก็ยังคงมีผลงานออกมาอย่างต่อเนื่อง

จน กระทั่งในวันที่ 25 ตุลาคม ปี 2002 สองปีครึ่งหลังจากที่อนิเมชั่นจบลง วงก็ตัดสินใจประกาศแยกวง หลังการประกาศครั้งนั้น พวกเขาเดินสายทัวร์คอนเสิร์ตครั้งสุดท้าย โดยใช้ชื่อทัวร์ว่า “ucifer Last Live 2002-2003 Energy" ที่มีขึ้นตั้งแต่วันที่ 16 ธันวาคม 2002 ถึง 10 มกราคม 2003 คอนเสิร์ตดังกล่าวจัดขึ้นทั้งหมด 9 รอบ หลังจากนั้น พวกเขาก็ไปออกรายการมิวสิกโชว์ทางทีวีเป็นครั้งสุดท้ายซึ่งก็คือรายการ PopJam เมื่อวันที่ 11 มกราคม 2003 และปิดการแสดงคอนเสิร์ตครั้งสุดท้าย (ซึ่งก็ถือเป็นการโชว์นอกประเทศครั้งสุดท้ายของพวกเขาด้วย) ที่ Impact Arena เมืองทองธานี กรุงเทพฯ ไปเมื่อวันที่ 19 มกราคม ปีเดียวกันนั้นเอง

ใน ตอนแรก งานอัลบั้มแรกของพวกเขานั้น ก็ได้ศิลปินอย่าง Takuya Asanuma (จากวง JUNDY AND MARY), Chisato (วง Penicillin) และ IPPEI & TAIZO (จากวง FEEL) มาช่วยในส่วนของดนตรีด้วย แต่หลังจากนั้น สมาชิกในวงก็เริ่มทำเพลงกันเอง จนกระทั่งมาถึงงานอัลบั้มชุดที่สาม เกือบจะทุกเพลงในอัลบั้มแต่งขึ้นโดยสมาชิกในวงแทบจะทั้งหมด

หลังจากการแยกวง
- Makoto ทำงานเดี่ยวของตัวเองต่อ โดยมี Towa กับ Santa มาช่วยเล่นดนตรีให้ในมินิอัลบั้มชุดแรก “VIBRATION”
- Towa ได้เข้าไปเป็นสมาชิกในวงถึงสองวง ซึ่งก็คือ OLIVE SUNDAY และ Birth of Life และยังได้ทำงานเดี่ยวของตัวเองออกมาด้วยเช่นกัน
- Santa เข้าร่วมเป็นสมาชิกวง OLIVE SUNDAY พร้อมกับ Towa เขายังไปเข้าร่วมในกลองเซสชั่นหลายๆครั้ง และยังทำดนตรีให้กับซาวนด์แทร็กเรื่อง Angelique อีกทั้งยังมีโปรเจ็กต์อย่างงานมินิอัลบั้มชุดแรกของศิลปิน Anna Tsuchiya ที่ชื่อ Taste My Beat อีกด้วย
- Yuki ตั้งวงชื่อ DUBSTAR-3 ร่วมกับอดีตสมาชิกของวง Sex Machineguns ซึ่งก็คือ Noisy และ Himawari เขายังได้ร่วมทำงานในงานเดี่ยวของ yasu แห่งวง Janne Da Arc ที่ชื่อ Acid Black Cherry ปี 2010 เขาตัดสินใจเข้าร่วมกับวง Rayflower วงร็อคที่ตั้งขึ้นโดย Keiichi Miyako มือคีย์บอร์ดของวง SOPHIA นั่นเอง
- Atsuro เล่นกีตาร์ให้กับศิลปินเจป๊อปมากมาย ไม่ว่าจะเป็น meg rock, Marika และ Chieko Kawabe และเข้าร่วมในวงร็อคอย่าง Tokyo Anastasia ในช่วงระยะเวลาสั้นๆ

ลูซิเฟอร์ ตัดสินใจกลับมารวมตัวกันอีกครั้งในเดือนพฤศจิกายน
2009 และเซ็นสัญญาใหม่กับค่าย
T.N.B. Entertainment


สมาขิก
• Abe "Santa" Toru •
Santa (ซันตะ)
ตำแหน่ง: กลอง
เกิด: 11 ธันวาคม
กรุ๊ปเลือด: โอ
• Yuuki "Yuki" Masahiko •
Yuki (ยูกิ)
ตำแหน่ง: กีตาร์
เกิด: 20 มิถุนายน
กรุ๊ปเลือด: บี
• Makoto Koshinaka •
Makoto (มาโกโตะ)
ตำแหน่ง: ร้องนำ
เกิด: 15 กรกฎาคม
กรุ๊ปเลือด: บี
• Daisuke "Atsuro" Kato •
Atsuro (อัตสึโระ)
ตำแหน่ง: กีตาร์
เกิด: 23 สิงหาคม
กรุ๊ปเลือด: เอ
• Taguchi "Towa" Tomonori •
Towa (โทวะ)
ตำแหน่ง: เบส
เกิด: 28 พฤศจิกายน
กรุ๊ปเลือด: เอ

วันอาทิตย์ที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2553

นับถอยหลัง Aucifer 10th Anniversary Live in Bangkok 2010

นับถอยหลัง Aucifer 10th Anniversary Live in Bangkok 2010

คอนเสิร์ต Aucifer 10th Anniversary Live in Bangkok 2010 การกลับมารวมตัวกันอีกครั้งของ 5 หนุ่มแห่งวงลูซิเฟอร์เพื่อฉลองการครบรอบ 10 ปีของวง ในวันที่ 25 กันยายนนี้ ณ อินดอร์สเตเดี้ยมหัวหมาก หลังจากโชว์คอนเสิร์ตสุดท้ายที่ประเทศไทยก่อนจะแยกวง งานนี้หนุ่มเจ้าเสน่ห์อย่างมาโกโตะ เลยขอฝากเสียงมาออดอ้อนแฟนคลับชาวไทยให้มาร่วมสนุกกันในคอนเสิร์ตครั้งนี้ ซึ่งเริ่มเปิดจองบัตรไปเมื่อวันที่ 7 สิงหาคมที่ผ่านมา



โดย มาโกโตะ โคชินากะ นักร้องนำของวงลูซิเฟอร์ ได้พูดถึงคอนเสิร์ตสุดพิเศษครั้งนี้ว่า .....สวัสดีครับผมมาโกโตะ ไม่ได้พบกันนานแล้วนะครับ ผมและสมาชิกวง ลูซิเฟอร์ จะเดินทางไปประเทศไทย เพื่อแสดงคอนเสิร์ตหลังห่างหายไปนานถึง 7 ปี เวลา 7 ปีผ่านไปเร็ว มากครับตอนนี้สมาชิกแต่ละคนกลายเป็นคุณลุงที่มีความสามารถทางด้านดนตรีมาก ขึ้นกว่าเดิม

......พวกเรากลับมารวมตัวกันอีกครั้งหลังจากที่เคยแสดงร่วมกันที่ อิมแพค อารีน่าเมื่อตอนนั้นรับรองว่าว่าการแสดงครั้งนี้จะต้องยิ่งใหญ่กว่าการแสดงในอดีต อย่างแน่นอนครับ ปีนี้ ลูซิเฟอร์ ครบรอบ 10 ปี แล้วนะครับแฟนเพลงที่ยังเป็นเด็กเมื่อ 7 ปีก่อนคงโตขึ้นแล้ว เช่นเดียวกับพวกเราที่กลายเป็น OSSAN กันหมดแล้วรู้จักคำว่า OSSAN กันไหมครับ เดี๋ยวผมจะไปหามานะครับว่าภาษาไทยออกเสียงอย่างไร แต่รับรองว่าทุกคนจะได้สนุกสนาน กับฝีมือทางด้านดนตรีที่พัฒนาขึ้นของพวกเรา หวังว่าจะยังไม่ลืมพวกเรานะครับ มาร่วมฉลอง 10 ปี ไปกับพวกเรา



มาโกโตะ ลงทุนอ้อนแฟนเพลงชาวไทยขนาดนี้ สาวกเจ-ร๊อก หรือ คอดนตรี ร๊อก ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง เจ้าตัวและสมาชิกในวง การันตี ว่า มีอะไรดีๆ มาฝากแฟนเพลงชาวไทยอย่างแน่นอน ในวันที่ 25 กันยายน 2553 ณ อินดอร์ สเตเดียม (หัวหมาก) สามารถหาซื้อบัตรได้แล้ววันนี้ ที่ ไทย ทิคเก็ต เมเจอร์ โทร 02 – 262 – 3456 บัตรราคา 3,000 / 2,000 / 1,200 และ 800 บาท


คิดว่าเมืองไทยตอนนี้เปลี่ยนหรือแตกต่างจากการมาครั้งแรกมั้ย?
มาโกโตะ :: อย่างแรกเลย รู้สึกว่าของจะแพงขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องดีนะครับ (ยิ้ม) แล้วก็รู้สึกว่าสาวไทยสมัยนี้อินเทรนด์มากขึ้น แต่งตัวใกล้เคียงกับสาวญี่ปุ่นแล้ว เดินๆมองไปตามถนนรู้สึกทุกคนดูดีขึ้นมากเลย



แล้ว LUCIFER ล่ะ ครั้งนี้มีอะไรแตกต่างจากเดิมบ้าง?
มาโกโตะ :: ตัวผมเองและสมาชิกคนอื่น หลังจากเวลาได้ผ่านไปเจ็ดปี ทุกคนได้กลับมามอง LUCIFER ใหม่อีกครั้ง ซึ่ง ณ ตอนนี้ เราได้สั่งสมประสบการณ์ และฝีมือด้านดนตรีมากขึ้นแล้ว นี่จึงน่าจะเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดที่พวกเราจะได้รวมตัวกัน แล้วเล่นคอนเสิร์ตกันอีก และมันจะต้องเป็นคอนเสิร์ตที่เรียกได้ว่าดีมากที่สุดด้วยครับ

เมื่อเจ็ดปีที่แล้วคอนเสิร์ตของคุณสร้างความประทับใจมาก ครั้งนี้มีการเตรียมตัวอย่างไร?
มาโกโตะ :: ที่จริงแล้วก่อนหน้านี้ที่ญี่ปุ่นมีการจัดคอนเสิร์ตไปแล้ว 4 ครั้ง ที่ไทยนี่เป็นครั้งที่ 5 เลยไม่ต้องเตรียมตัวอะไรมาก คาดว่าคงจะเป็นคอนเสิร์ตเพอร์เฟค นอกจากนี้เรายังได้คัดสรรเพลงมาเพื่อแฟนๆชาวไทยโดยเฉพาะ เพราะเรารู้ว่าแฟนชาวไทยชอบเพลงอะไร ดังนั้นก็จะพยายามเอาเพลงนั้นมาเล่น บางเพลงอาจจาไม่ได้เล่นที่ญี่ปุ่นเลยด้วย ก็เลยพยายามเลือกเพลงที่แฟนๆชาวไทยชอบครับ

ทำไมถึงเลือกประเทศไทยในการแสดงคอนเสิร์ตครั้งนี้?
มาโกโตะ :: เมื่อสิบปีที่แล้ว LUCIFER ได้ถือกำเนิดขึ้นที่โอซาก้า และได้แสดงคอนเสิร์ตครั้งแรกที่นั่น คราวนี้ฉลองครบรอบสิบปี เราเลยอยากจะกลับสู่จุดเริ่มต้นอีกครั้ง ก็เลยไปกลับแสดงที่โอซาก้า ที่เดิม เวลาเดิม ส่วนที่ประเทศไทยก็เหมือนกัน เราได้มาแสดงคอนเสิร์ตอำลาแยกวงที่นี่เมื่อเจ็ดปีที่แล้ว ก็อยากจะกลับมาที่จุดเดิมอีกครั้งเพื่อเป็นการเริ่มต้นใหม่ และอีกอย่างหนึ่งคือ แฟนเพลงชาวไทยให้การต้อนรับ LUCIFER อย่างเหนียวแน่นและอบอุ่นมาก พวกเราจึงอยากตอบแทนแฟนๆชาวไทยด้วย

ให้มาโกโตะฝากถึงแฟนๆชาวไทยและคอนเสิร์ตที่กำลังจะมีขึ้นหน่อย
มาโกโตะ :: ก็อยากให้แฟนๆทุกคนมาร่วมในคอนเสิร์ตครั้งนี้ อยากให้ทุกคนมาร่วมร้องเพลงด้วยกันกับพวกเราอีกครั้งเพื่อให้เป็นคอนเสิร์ตที่ยอดเยี่ยมที่สุด….ขอบคุณครับ





ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก

Concert Reveiew: Λucifer 10TH Anniversary Live in Bangkok 2010

Concert Reveiew: Λucifer 10TH Anniversary Live in Bangkok 2010
Date: 25 กันยายน 2553
Venue: Indoor Stadium หัวหมาก
แดดร่ม ลมตก ยามเย็นวันเสาร์ที่ปกติเราจะนอนกลิ้งไปกลิ้งมาสบายใจอยู่ที่บ้าน แต่วันนี้ทำไม่ได้ค่ะ เพราะเรามีนัดสุดพิเศษและแสนจะตื่นเต้นกับ 5 หนุ่มเทวดาตกสวรรค์ Λucifer (ลูซิเฟอร์) ที่อินดอร์ สเตเดียม หัวหมาก ก็แหมๆๆๆ วงร็อคจากญี่ปุ่นมาทั้งที แล้วมาจัดคอนเสิร์ตสุดพิเศษ คัดเพลงกันเป็นพิเศษ เตรียมโชว์มาเป็นพิเศษ เพื่อฉลองครบรอบ 10 ปี ร่วมกับแฟนๆ ชาวไทย แล้วอย่างนี้จะไม่ให้เป็นนัดสุดพิเศษ สุดตื่นเต้นได้อย่างไร งานนี้เราเลยกระวีกระวาดออกจากบ้านตรงดิ่งไปอินดอร์ แบบไม่ต้องคิดอะไรมากกันเลยเชียว เพราะว่าคอนเสิร์ตนี้ สาวกเจร็อค(นิดๆ)อย่างเราพลาดไม่ได้ค่ะ

ไปถึงหน้างาน แฟน ลูซิเฟอร์และสาวกเจร็อคก็ไปรอกันมากมายแล้ว บรรยากาศดูคึกคักมากที เดียว หลายคนแต่งคอสเพลย์กัน เสื้อผ้าหน้าผมสมกับเป็นแฟนเจร็อค และเท่าที่สังเกตดูบวกกับอาศัยเนียนพูด คุยกับหลายๆ คน ทำให้รู้เลยว่าที่มากันวันนี้ ไม่เฉพาะแต่แฟนๆ ลูซิเฟอร์เท่านั้น แต่เป็นงานที่รวบรวมแฟนคลับเจร็อควงอื่นๆ ไว้ด้วย ด้วยเหตุผลที่ว่า คอนเสิร์ตสไตล์เจร็อคฝืมือดีๆ แบบนี้ ไม่ได้มีมาให้ดูกันบ่อยๆ เลยพลาดไม่ได้เด็ดขาด ยิ่งช่วงค่ำๆ ใกล้ๆ เวลาจะเริ่มแสดง แฟนคลับยิ่งมากันหนาตาขึ้น ทำให้เห็นกระแสตอบรับที่ดีมาก จริงๆ ค่ะ

พอเราเข้าไปข้างใน นึกว่าข้างในจะคึกคัก แต่ก็แปลกใจ แฟนๆ นั่งรอกันอย่างสงบๆ มากค่ะ เราเองก็ไม่เคยดูคอนเสิร์ตสไตล์แบบนี้ซะด้วย เคยไปแต่สายเพลงป๊อปซึ่งเค้าจะมีเล่นเวฟมั่ง กรี๊ดมั่ง หรือตะโกนเรียกนักร้อง หรือนั่งร้องเพลงกันมั่ง แต่นี่นั่งคุยกันเรียบร้อยๆ ก็เลยแปลกใจ แต่พอ คอนเสิร์ตเริ่มเท่านั้นแหละ โอ้โห ภาพเปลี่ยนไปเลยค่ะ

ตาม กำหนดการคอนเสิร์ตนี้จะเริ่มตอนประมาณ 19.30 น. แต่เริ่มจริงๆ ช้ากว่ากำหนดการนิดหน่อย เพราะรอให้แฟนๆ เข้ามาข้างในอินดอร์ให้หมดก่อน เมื่อเพลงสรรเสริญพระบารมีเริ่มขึ้น เป็นสัญญาณบอกให้รู้ว่าคอนเสิร์ตกำลังจะเริ่มแล้ว บรรยากาศความตื่นเต้นก็ เริ่มมาทันทีค่ะ และลูซิเฟอร์ก็ไม่ปล่อยให้แฟนๆ รอนานแต่อย่างใด เพราะปล่อย VTR ภาพบรรยากาศความประทับใจต่างๆ ตั้งแต่ช่วงแรกของการก่อตั้งวง ไล่มาเรื่อยๆ จนถึงภาพคอนเสิร์ตในอดีตก่อนที่จะแยกย้ายกันไป เพียงแค่ VTR นี้ แฟนคลับก็ตื่นเต้น ลุกจากเก้าอี้เตรียมพร้อมมันส์ไปกับ 5 หนุ่มลูซิเฟอร์แล้ว ทั้งที่ก่อนหน้านี้ยังเรียบร้อยกันอยุ่เลยค่ะ โอ้ เราตื่นเต้นตามเลยค่ะ นั่งไม่ติดแล้ว ขอลุกมาแจมด้วย

VTR เริ่มแนะนำสมาชิกทีละคน และสมาชิกคนนั้นๆ ก็เดินออกมากลางเวที เรียกเสียงกรี๊ดกันไปแบบไม่มีใครน้อยหน้าใครเลย วันนี้ลูซิเฟอร์มาแบบเท่ๆ ด้วยเสื้อผ้าโทนสีดำค่ะ เว้นยูกิมือกีต้าร์สุดน่ารักที่ขอแหวกแนวมาในเสื้อ สีขาวคอปาดเรียกเรตติ้งสาวๆ ที่แพ้ความขาวไปเกือบหมดเลยค่ะ จนสมาชิกออกมาครบวง ความมันก็ระเบิดขึ้นทันที
เริ่มต้นเพลงแรกกับเพลงเดบิวต์ของลูซิเฟอร์ที่แฟนๆ คุ้นเคยกันเป็นอย่างดี เพลง Datenshi Blue แค่เพลงแรกเปิดคอนเสิร์ต ความร้อนแรงที่มาโกโตะบอกไว้ตอนแถลงข่าวคอนเสิร์ตนี้ก็เริ่มปะทุขึ้นมาแล้ว จริงๆ ด้วยค่ะ เพราะแค่เพลงแรก อัตทสึโร่ก็เริ่มปล่อยของลีดกีต้าร์โชว์กันแล้ว

เพลงที่ 2 Carnation Crime มาถึงเพลงนี้ แฟนๆ ก็แทบจะไม่มีใครนั่งติดเก้าอี้แล้วค่ะ ลุกขึ้นมาโยกตามกันหมด แล้วไม่ปล่อยให้แฟนๆ ได้พักหายใจค่ะ เพราะเพลงต่อมา Furueru Magma ก็ยังคงเป็นเพลงจังหวะเร็ว หนักแน่น เร้าใจ ยังไม่ทันไรเวทีก็ร้อนทะลุจุดเดือดซะแล้วค่ะ สมกับที่มาโกโตะบอกไว้ว่าเสน่ห์ของลูซิเฟอร์คือเวทีที่ร้อนแรงจริงๆ
พักเหนื่อยมาทักทายแฟนๆ วันนี้ลูซิเฟอร์เตรียมตัวมาอย่างดีเหมือนเมื่อ 7 ปีที่แล้ว (มีคนเล่าให้ฟังนะคะ ไม่ได้ไปดูด้วยตาตัวเอง) โดยการทักทายพูดคุยกับแฟนๆ เป็นภาษาไทยทั้งหมดเลยค่ะ
โดยมาโกโตะเป็นตัวแทนทักทายแฟนช่วงพักเหนื่อย มาถึงก็ “สวัสดี ครับ เราคือลูซิเฟอร์ พร้อมหรือยัง” แฟนๆ ก็ตอบ เย่ แล้วมาโกโตะก็ถามย้ำให้แฟนๆ ตอบเย่ๆ ต่อไปว่า “พร้อมหรือยังๆๆๆๆๆๆ” หลายครั้งมาก จนตอบไป ขำไป เข้าใจเล่นค่ะ น่ารักดี บรรยากาศช่วงนี้เลยดูสบายๆ ชิวๆ เหมือนเพื่อนเล่นกัน

ก่อนจะกลับไปมันส์ต่อเพลงอีก 3 เพลงรวด Plasmagic, Jealousy และ Dummy ที่เร่งจังหวะให้ร้อนแรงขึ้นไปอีก สมาชิกแต่ละคนเริ่มมีสลับตำแหน่งยืน วิ่งไปซ้าย ไปขวา มาโกโตะบอกให้ “ชูมือ” แฟนๆ ก็ชูกันสนุนสนาน ยูกิไม่ยอมน้อยหน้า เริ่มโดยเรตติ้งกลับมาโดยการแจกปิ๊ก แจกจนสงสัยว่าแอบซ่อนไว้ไหนมั่งเนี่ย ดูจะมีเยอะไปหมด แล้วตาก็เหลือบไปเห็นหัวกีต้า ข้างเวที ตรงขาไมค์ อู้ยยยยยย ปิ๊กเพียบเลย หายสงสัยแล้วค่ะ ช่วง Jealousy มาโกโตะแอบแกล้งอัตทสึโร่ด้วย ตอนแรกก็ไปกอดคอร้องเพลงอยู่ดีๆ แต่พอร้องจบท่อนก็ขโมยหอมแก้มอัตทสึโร่เล่นซะอย่างนั้น แฟนๆ ข้างล่างกรี๊ดกันคอแทบแตกด้วยความอิจฉา เพลง Dummy ลูซิเฟอร์เตรียมดอกไม้มามอบให้แฟนๆ ด้วย ได้ใจไปอีกกระบุง แถมตอนจบเพลง มาโกโตะวิ่งมาหน้ากล้องที่ฉายขึ้นจอใหญ่ จูบดอกไม้โชว์พร้อมส่งสายตาละลายใจ แฟนคลับเห็นแล้วกรี๊ดกันแทบสลบเลยเชียวค่ะ
กรี๊ด กันจนเหนื่อย ลูซิเฟอร์ก็เบรกอารมณ์เริ่มมาพูดคุย โดยคราวนี้สมาชิกคนอื่นๆ ได้ทักทายแนะนำตัวกันบ้าง แน่นอนว่าพูดภาษาไทยที่เตรียมตัวกันมาเป็นอย่างดี เริ่มที่โทวะ แนะนำตัวเอง ก่อนเลยว่า “สวัสดีครับ ผมชื่อโทวะ ขอเสียงหน่อย” แฟนก็กรี๊ด “ผมชอบคนไทย” แฟนก็กรี๊ด

ต่อด้วยซันตะที่มาพร้อมมุขน่ารักๆ ว่า “ผม ชื่อซันตะ ผมจะตีให้สุดชีวิต” เท่านั้นแฟนๆ ก็ระเบิดเสียงกรี๊ดให้กำลังใจพ่อหนุ่มมือกลองที่ออกมาเรียกเรตติ้งแข่งกับ เพื่อนไม่ได้ยกใหญ่เลย ก็น่ารักขนาดนี้นี่นะ ต่อให้ออกมาเล่นข้างหน้าเวที ไม่ได้ แต่แฟนๆ ก็ปลื้ม
ตามมาด้วยพ่อหนุ่มจอมขโมยซีนยูกิ ด้วยประโยคโดนใจว่า “ยู กิ ผมหล่อมั้ย” แล้วแฟนๆ จะตอบอะไรไม่สำคัญ เพราะพ่อหนุ่มเล่นยืนยันตัวเองว่า “ผมหล่อที่สุด” ยูกิคงอยากพูดอะไรต่อ แต่ท่าทางจะไม่รอด เลยควักโพยมาดูซะเลย แล้วเลือกมาหนึ่งประโยคว่า “คนไทยน่ารักมาก” ก่อนจะจบด้วยมุขสุดฮากับการเลือกประโยคในโพยว่า “ In Restaurant ไม่ใส่ผักชี” แล้วสมาชิกทุกคนก็ช่วยกันใหญ่ “เอาด้วยๆๆๆ” เล่นเอาฮากันทั้งคอนเสิร์ต
ต่อด้วย หนุ่มมาโกโตะที่พูดมาเยอะมาก แต่...ฟังไม่ออกเลยซักประโยค แฟนๆ ตะโกน ห๊ะๆๆ เป็นระยะๆ และมึนงงไปตามๆ กัน ขอโทษด้วยนะมาโกโตะ วันหลังเราจะพกเครื่องแปลภาษาไปค่ะ

ปิดท้ายด้วยหนุ่มอัตทสึโร่ที่แค่ประโยคแรกก็น่ารักแล้ว ทักทายแฟนๆ ด้วย “รักนะ จุ๊บๆ ผมมาไกลมาก ดีใจที่ได้มาอีก มาเจอกันที่คอนเสิร์ต” ก่อนจะกลับไปมันกันต่อกับเพลง Tsubasa
แล้วคอนเสิร์ตก็เริ่มเข้าสู่ช่วงเพลงในจังหวะเบาๆ ลงมา ในเพลง Tokyo Ilussion หลังจากนั้น อัตทสึโร่ก็เปลี่ยนมาใช้กีต้าโปร่งโชว์ไลน์กีต้าสวยๆ คู่ไปกับยูกิที่ลีดกีต้าร์ด้วยอารมณ์บาดลึก กับเพลง Love&Pain ต่อด้วยเพลง Shooting Star ที่เพลงนี้ แฟนๆ บริเวณหน้าเวทีทำพร็อพเล็กๆ แต่น่ารักให้ลูซิเฟอร์โดยการเป่าฟองสบู่อยู่ริมๆ เวที แล้วช่วยกันพัดฟองสบู่ไปตรงกลางเวทีให้ล้อกับแสงไฟ เป็นความพยายามที่น่ารัก มากเลยค่ะ
จบช่วงเพลงฟังสบายๆ เข้าสู่ช่วงพูดคุยอีกครั้ง โดยมาโกโตะบอกว่า “เมื่อกี้ เอ่อ....” เริ่ม ประโยคเหมือนคนไทยคุยกันจริงๆ แล้วค่ะ “ไม่ใส่ผักชี” ฮากันอีกรอบ แถมสมาชิกในวงช่วยกันต่อมุขเหมือนเดิม เป๊ะเลย “เอาด้วยๆๆๆ” จากนั้นมาโกโตะก็เริ่มพูดๆๆ แบบเราฟังไม่ออกอีกครั้ง และเจ้าตัวคงจะรู้ว่าแฟนๆ ก็น่าจะฟังไม่ออก เลยหันมาส่งจูบไปทั่วแทนซะเลย ใช้เสน่ห์เข้าสู้นี่เอง ก่อนจะบอกแฟนๆ ว่า “ช่วยกันร้องหน่อย” ในเพลงต่อไป Orange, Junk City และ C no Binetsu

ใน ช่วงนี้ มาโกโตะเดินไปเล่นกับแฟนๆ ทั่วเวทีเลยค่ะ ที่เวทีฝั่งหนึ่งมีแฟนๆ โยนผ้าขึ้นไปให้ซับเหงื่อตอนมาโกโตะจะเดินไปอีกฝั่งพอดี เดินไปเกือบครึ่งเวทีแล้ว แต่สายตาคงเหลือบเห็น เลยเดินหันหลังกลับมาตามจังหวะดนตรีย่ำเท้ามาแต่ไกล มาเก็บผ้าผืนนั้นพร้อมส่งยิ้มให้อีกหนึ่งรอบ ก่อนจะเอาผ้าไปซับเหงื่อให้ยูกิที่อยู่อีกฝั่ง น่ารักเชียวค่ะ
พักพูดคุยกันอีกครั้ง คราวนี้มาโกโตะคงคิดว่า พูดเองคงแย่แล้ว ควักโพยออกมาดูอีกคน “ผม รักทุกคนนะ ผมคิดถึงทุกคนที่มานะ ดีใจที่ทุกคนมาดู ผมรักคุณ” และพูดมาอีกมากมาย ซึ่งเราเองก็ยังคงฟังไม่รู้เรื่องเหมือนเดิม แล้วจบท้ายด้วย “ช่วยกันร้องหน่อย” ก่อนจะเข้าเพลงต่อไปค่ะ
เวทีกลับมาร้อนระอุทะลุจุดเดือดกันอีกครั้งกับเพลง Lucy ด้วยดนตรีหนักหน่วง และอีกครั้งที่มาโกโตะแกล้งเพื่อนโดยการวิ่งไปกอดคอร้อง เพลงแล้วแกล้งหอมยูกิ ก่อนจะเปลี่ยนฝั่งไปเล่นกับอัตทสึโร่ ปล่อยโทวะยืนยิ้มไป เล่นเบสไปอยู่ข้างหลัง ในเพลงนี้ ช่วงที่เราชอบที่สุดคือช่วงที่ยูกิกับอัตทสึโร่ลีดกีต้าร์คู่กัน ใช้เสียงลีดกีต้าร์คนละคีย์ แต่แม่นเป๊ะมาก ประทับใจ

ตามติดมาด้วยเพลง Egovision ที่เร่งจังหวะให้ร้อนแรง ด้วยกลิ่นเพลงที่ให้บรรยากาศเซ็กซี่เล็กๆ ช่วงท้ายเพลงคงมันจัด เพราะพ่อหนุ่มมาโกโตะถึงขั้นลงไปนอนร้องเพลงกับพื้น ก่อนจะลุกขึ้นมาหยิบน้ำมาพ่นเล่นบนเวทีสนุกสนาน จากนั้น ยูกิออกมาโซโล่กีต้าร์โชว์ลีลาและเทคนิคสุดเจ๋ง ปล่อยให้เพื่อนๆ ได้พักเหนื่อยกันมั่ง ก่อนจะกลับมามันส์กันต่อใน Poker Face ที่ระหว่างเพลง มาโกโตะหยิบน้ำมาสาดใส่แฟนๆ ดับร้อน แล้วบิ้วต์ต่อด้วยการให้ยกมือซ้าย สลับชูมือขวา เสร็จแล้วกระโดดลงมาข้างล่างเวที ทำเอาแฟนคลับข้างหน้าแตกฮือปั่นป่วนกันไปหมด แต่ตอนจะกลับขึ้นเวทีนี่ซิ เราแอบฮา ตรงที่ว่ามาโกโตะเองคงกะว่าปีนขึ้นเองเท่ๆ ได้แน่ๆ แต่ไม่รอด สุดท้ายทีมงานต้องช่วยยกตัวขึ้น เป็นความฮาในแบบน่ารักๆ ก่อนจะปิดช่วงนี้ด้วย Labyrinth ที่ยังคงร้อนแรงต่อเนื่องไม่มีผ่อนอารมณ์เลย
ก่อนจะ พักเบรกอีกรอบ ซึ่งมาโกโตะยังคงรับหน้าที่พูดคุยกับแฟนๆ เหมือนเดิม และที่เหมือนเดิมยิ่งกว่าคือเราฟังไม่ออกว่าพูดอะไร ขอโทษแฟนๆ มาโกโตะด้วยนะคะ สุดปัญญาจริงๆ แล้วจึงปิดท้ายคอนเสิร์ต (ที่แฟนๆ ก็รู้ว่าไม่ท้ายที่สุดหรอก) ด้วยเพลง Midnight Crow ใน เพลงนี้เองที่มาโกโตะตั้งใจไปแกล้งโทวะ กอดคอ ร้องเพลง มองหน้า ทำท่าจะหอมแก้ม แต่ไม่กล้า คาดว่าโทวะจะใช้ความสงบและรอยยิ้มสยบความเคลื่อนไหวของมาโกโตะ ได้ผลชะงัดนักเชียว พอจบเพลง หนุ่มๆ ก็โบกไม้โบกมือล่ำลาแฟนๆ ก่อนจะเดินกลับเข้าไปหลังเวทีค่ะ

แน่ นอนว่าแฟนๆ จะปล่อยให้คอนเสิร์ตจบไปทั้งอย่างนี้ได้ยังไง เลยไม่มีใครยอมไปไหนเลย ตะโกนเรียกลูซิเฟอร์กันยกใหญ่ หนุ่มๆ เลยกลับออกมาตามคำเรียกร้องด้วยใบหน้าที่เนียนใสกิ๊ง เสื้อผ้าบางคนเปลี่ยนตัวใหม่มา พร้อมแล้วก็เริ่มเพลงสุดโปรดอย่าง Regret เพลงที่แฟนๆ ชื่นชอบและร้องตามกันเสียงดังลั่น แล้วตามด้วย Castaways ที่เพลงนี้ มาโกโตะก็ยังคงพยายามวิ่งไปแกล้งโทวะ และเป็นอีกครั้งที่ทำได้แค่มองหน้ายิ้มๆ แต่ไม่กล้าหอมแก้มเช่นเคยก่อนจะจบเพลงพร้อมอำลาแฟนๆ อีกครั้ง
และเป็น อีกครั้งที่แฟนๆ ก็ยังคงไม่ยอมกลับ และตะโกนเรียกลูซิเฟอร์อยู่อย่างนั้น ลูซิเฟอร์จึงออกมาอีกครั้งตามคำเรียก ร้อง แต่มาคราวนี้ บอกให้แฟนๆ ทุกคนช่วยกันร้องเพลงด้วย กับเพลง See You ซึ่งเพลงนี้เป็นเพลงที่แฟนๆ ร้องกันได้อยู่แล้ว เสียงร้องทั้งของมาโกโตะจึงสอดประสานไปกับเสียงแฟนๆ ที่ตั้งใจร้องกันเต็มที่ จบเพลงกันไปอย่างประทับใจ ก่อนจะกลับลงไปหลังเวที ซันตะถึงกับแจกไม้กลองให้แฟนๆ ปั่นป่วน ยูกิกับอัตทสึโร่ก็ไม่น้อยหน้า แจกปิ๊กกันเป็นว่าเล่น มาตกใกล้ๆ เราอันนึงด้วย เสียดายว่าไม่ได้มา ไม่อย่างนั้นจะเอามาเล่นเกมแจกแฟนๆ Talkateen ซะหน่อย
อังกอร์ ไป 2 รอบแล้ว ก็คิดว่าคงจบจริงๆ แล้วหละ แต่แฟนๆ เหมือนจะรู้ทัน ยังไม่มีใครยอมไปไหนเหมือนเดิม ยังคงตะโกนเรียกและรอลูซิเฟอร์อยู่เหมือนเดิม ก็เรียกกันขนาดนี้ ลูซิเฟอร์เลยจัดให้ เอาใจกันสุดๆ ออกมาอีกครั้งพร้อมกับบอกว่า “Last song แล้วนะ” แล้วปิดท้ายคอนเสิร์ตด้วยเพลงเดียวกันกับเพลงเปิดคอนเสิร์ต เป็นเพลงที่มีความหมายทั้งกับลูซิเฟอร์เองและแฟนคลับ เพลง Datenshi Blue

มา ถึงตรงนี้ ทำให้รู้สึกว่า คอนเสิร์ตครั้งนี้จบแล้วจริงๆ จบอย่างสมบูรณ์แบบ สมใจคอเจร็อค และเริ่มๆ จะใจหาย เพราะบรรยากาศต่อจากจบเพลงทำให้รู้ว่า ลูซิเฟอร์เองก็ไม่อยากให้คอนเสิร์ตจบ แฟนคลับก็ยิ่งไม่อยากให้คอนเสิร์ตจบ สมาชิกทุกคนยกมือไหว้ขอบคุณแฟนคลับ เป็นการขอบคุณที่เรารู้สึกว่าพวกเค้าขอบคุณออกมาจากหัวใจจริงๆ รู้สึกได้เลยว่า พวกเค้ารับรู้ความรู้สึกที่แฟนคลับส่งไปให้พวกเค้า และพวกเค้าเองก็รู้สึกอย่างเดียวกัน ช่วงนี้เลยเหมือนเพื่อนๆ มางานเลี้ยงและงานเลี้ยงกำลังจะจบ การล่ำลากันเป็นบรรยากาศแบบสบายๆ ดูเป็นกันเอง ขอถ่ายรูปกัน โดยลูซิเฟอร์ขอให้ทีมงานออกมาและถ่ายรูปจากบน เวทีลงมาโดยมีแฟนๆ อยู่ข้างหลัง ขอให้ทุกคนช่วยกันพูด datenshi blue ตอนถ่ายรูป ทั้งที่จะนับเลขแบบไทยยังลำบาก แต่ก็ตั้งใจทำกันสุดๆ ทั้งสนุกสนาน ทั้งประทับใจ และสุดท้ายจริงๆ ลูซิเฟอร์ขอให้แฟนๆ ทุกคนจับมือกัน และร่วมกระโดดไปกับพวกเค้าเป็นการปิดท้ายคอนเสิร์ตที่สุด ประทับใจจริงๆ
แม้ คอนเสิร์ตจะจบไปแล้ว และไม่รู้ว่าอีกนานแค่ไหนที่ลูซิเฟอร์จะมีโอกาสกลับมาเล่นคอนเสิร์ตที่ ประเทศไทยอีกครั้ง แต่หลังจากนี้เราเชื่อว่าแฟนๆ ก็ยังจะคงรักและรอคอยลูซิเฟอร์ รอคอยคอนเสิร์ตดีๆ แบบนี้ต่อไป อยากบอกว่า พวกคุณสุดยอดจริงๆ ลูซิเฟอร์...
Special Thanks: บริษัท U7 และ P-Aha
ที่มา: - www.talkateen.com หากมีการนำออกไปใช้ กรุณาลงเครดิตของเว็ปให้ครบถ้วนด้วยนะคะ