วันอาทิตย์ที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2553

Concert Reveiew: Λucifer 10TH Anniversary Live in Bangkok 2010

Concert Reveiew: Λucifer 10TH Anniversary Live in Bangkok 2010
Date: 25 กันยายน 2553
Venue: Indoor Stadium หัวหมาก
แดดร่ม ลมตก ยามเย็นวันเสาร์ที่ปกติเราจะนอนกลิ้งไปกลิ้งมาสบายใจอยู่ที่บ้าน แต่วันนี้ทำไม่ได้ค่ะ เพราะเรามีนัดสุดพิเศษและแสนจะตื่นเต้นกับ 5 หนุ่มเทวดาตกสวรรค์ Λucifer (ลูซิเฟอร์) ที่อินดอร์ สเตเดียม หัวหมาก ก็แหมๆๆๆ วงร็อคจากญี่ปุ่นมาทั้งที แล้วมาจัดคอนเสิร์ตสุดพิเศษ คัดเพลงกันเป็นพิเศษ เตรียมโชว์มาเป็นพิเศษ เพื่อฉลองครบรอบ 10 ปี ร่วมกับแฟนๆ ชาวไทย แล้วอย่างนี้จะไม่ให้เป็นนัดสุดพิเศษ สุดตื่นเต้นได้อย่างไร งานนี้เราเลยกระวีกระวาดออกจากบ้านตรงดิ่งไปอินดอร์ แบบไม่ต้องคิดอะไรมากกันเลยเชียว เพราะว่าคอนเสิร์ตนี้ สาวกเจร็อค(นิดๆ)อย่างเราพลาดไม่ได้ค่ะ

ไปถึงหน้างาน แฟน ลูซิเฟอร์และสาวกเจร็อคก็ไปรอกันมากมายแล้ว บรรยากาศดูคึกคักมากที เดียว หลายคนแต่งคอสเพลย์กัน เสื้อผ้าหน้าผมสมกับเป็นแฟนเจร็อค และเท่าที่สังเกตดูบวกกับอาศัยเนียนพูด คุยกับหลายๆ คน ทำให้รู้เลยว่าที่มากันวันนี้ ไม่เฉพาะแต่แฟนๆ ลูซิเฟอร์เท่านั้น แต่เป็นงานที่รวบรวมแฟนคลับเจร็อควงอื่นๆ ไว้ด้วย ด้วยเหตุผลที่ว่า คอนเสิร์ตสไตล์เจร็อคฝืมือดีๆ แบบนี้ ไม่ได้มีมาให้ดูกันบ่อยๆ เลยพลาดไม่ได้เด็ดขาด ยิ่งช่วงค่ำๆ ใกล้ๆ เวลาจะเริ่มแสดง แฟนคลับยิ่งมากันหนาตาขึ้น ทำให้เห็นกระแสตอบรับที่ดีมาก จริงๆ ค่ะ

พอเราเข้าไปข้างใน นึกว่าข้างในจะคึกคัก แต่ก็แปลกใจ แฟนๆ นั่งรอกันอย่างสงบๆ มากค่ะ เราเองก็ไม่เคยดูคอนเสิร์ตสไตล์แบบนี้ซะด้วย เคยไปแต่สายเพลงป๊อปซึ่งเค้าจะมีเล่นเวฟมั่ง กรี๊ดมั่ง หรือตะโกนเรียกนักร้อง หรือนั่งร้องเพลงกันมั่ง แต่นี่นั่งคุยกันเรียบร้อยๆ ก็เลยแปลกใจ แต่พอ คอนเสิร์ตเริ่มเท่านั้นแหละ โอ้โห ภาพเปลี่ยนไปเลยค่ะ

ตาม กำหนดการคอนเสิร์ตนี้จะเริ่มตอนประมาณ 19.30 น. แต่เริ่มจริงๆ ช้ากว่ากำหนดการนิดหน่อย เพราะรอให้แฟนๆ เข้ามาข้างในอินดอร์ให้หมดก่อน เมื่อเพลงสรรเสริญพระบารมีเริ่มขึ้น เป็นสัญญาณบอกให้รู้ว่าคอนเสิร์ตกำลังจะเริ่มแล้ว บรรยากาศความตื่นเต้นก็ เริ่มมาทันทีค่ะ และลูซิเฟอร์ก็ไม่ปล่อยให้แฟนๆ รอนานแต่อย่างใด เพราะปล่อย VTR ภาพบรรยากาศความประทับใจต่างๆ ตั้งแต่ช่วงแรกของการก่อตั้งวง ไล่มาเรื่อยๆ จนถึงภาพคอนเสิร์ตในอดีตก่อนที่จะแยกย้ายกันไป เพียงแค่ VTR นี้ แฟนคลับก็ตื่นเต้น ลุกจากเก้าอี้เตรียมพร้อมมันส์ไปกับ 5 หนุ่มลูซิเฟอร์แล้ว ทั้งที่ก่อนหน้านี้ยังเรียบร้อยกันอยุ่เลยค่ะ โอ้ เราตื่นเต้นตามเลยค่ะ นั่งไม่ติดแล้ว ขอลุกมาแจมด้วย

VTR เริ่มแนะนำสมาชิกทีละคน และสมาชิกคนนั้นๆ ก็เดินออกมากลางเวที เรียกเสียงกรี๊ดกันไปแบบไม่มีใครน้อยหน้าใครเลย วันนี้ลูซิเฟอร์มาแบบเท่ๆ ด้วยเสื้อผ้าโทนสีดำค่ะ เว้นยูกิมือกีต้าร์สุดน่ารักที่ขอแหวกแนวมาในเสื้อ สีขาวคอปาดเรียกเรตติ้งสาวๆ ที่แพ้ความขาวไปเกือบหมดเลยค่ะ จนสมาชิกออกมาครบวง ความมันก็ระเบิดขึ้นทันที
เริ่มต้นเพลงแรกกับเพลงเดบิวต์ของลูซิเฟอร์ที่แฟนๆ คุ้นเคยกันเป็นอย่างดี เพลง Datenshi Blue แค่เพลงแรกเปิดคอนเสิร์ต ความร้อนแรงที่มาโกโตะบอกไว้ตอนแถลงข่าวคอนเสิร์ตนี้ก็เริ่มปะทุขึ้นมาแล้ว จริงๆ ด้วยค่ะ เพราะแค่เพลงแรก อัตทสึโร่ก็เริ่มปล่อยของลีดกีต้าร์โชว์กันแล้ว

เพลงที่ 2 Carnation Crime มาถึงเพลงนี้ แฟนๆ ก็แทบจะไม่มีใครนั่งติดเก้าอี้แล้วค่ะ ลุกขึ้นมาโยกตามกันหมด แล้วไม่ปล่อยให้แฟนๆ ได้พักหายใจค่ะ เพราะเพลงต่อมา Furueru Magma ก็ยังคงเป็นเพลงจังหวะเร็ว หนักแน่น เร้าใจ ยังไม่ทันไรเวทีก็ร้อนทะลุจุดเดือดซะแล้วค่ะ สมกับที่มาโกโตะบอกไว้ว่าเสน่ห์ของลูซิเฟอร์คือเวทีที่ร้อนแรงจริงๆ
พักเหนื่อยมาทักทายแฟนๆ วันนี้ลูซิเฟอร์เตรียมตัวมาอย่างดีเหมือนเมื่อ 7 ปีที่แล้ว (มีคนเล่าให้ฟังนะคะ ไม่ได้ไปดูด้วยตาตัวเอง) โดยการทักทายพูดคุยกับแฟนๆ เป็นภาษาไทยทั้งหมดเลยค่ะ
โดยมาโกโตะเป็นตัวแทนทักทายแฟนช่วงพักเหนื่อย มาถึงก็ “สวัสดี ครับ เราคือลูซิเฟอร์ พร้อมหรือยัง” แฟนๆ ก็ตอบ เย่ แล้วมาโกโตะก็ถามย้ำให้แฟนๆ ตอบเย่ๆ ต่อไปว่า “พร้อมหรือยังๆๆๆๆๆๆ” หลายครั้งมาก จนตอบไป ขำไป เข้าใจเล่นค่ะ น่ารักดี บรรยากาศช่วงนี้เลยดูสบายๆ ชิวๆ เหมือนเพื่อนเล่นกัน

ก่อนจะกลับไปมันส์ต่อเพลงอีก 3 เพลงรวด Plasmagic, Jealousy และ Dummy ที่เร่งจังหวะให้ร้อนแรงขึ้นไปอีก สมาชิกแต่ละคนเริ่มมีสลับตำแหน่งยืน วิ่งไปซ้าย ไปขวา มาโกโตะบอกให้ “ชูมือ” แฟนๆ ก็ชูกันสนุนสนาน ยูกิไม่ยอมน้อยหน้า เริ่มโดยเรตติ้งกลับมาโดยการแจกปิ๊ก แจกจนสงสัยว่าแอบซ่อนไว้ไหนมั่งเนี่ย ดูจะมีเยอะไปหมด แล้วตาก็เหลือบไปเห็นหัวกีต้า ข้างเวที ตรงขาไมค์ อู้ยยยยยย ปิ๊กเพียบเลย หายสงสัยแล้วค่ะ ช่วง Jealousy มาโกโตะแอบแกล้งอัตทสึโร่ด้วย ตอนแรกก็ไปกอดคอร้องเพลงอยู่ดีๆ แต่พอร้องจบท่อนก็ขโมยหอมแก้มอัตทสึโร่เล่นซะอย่างนั้น แฟนๆ ข้างล่างกรี๊ดกันคอแทบแตกด้วยความอิจฉา เพลง Dummy ลูซิเฟอร์เตรียมดอกไม้มามอบให้แฟนๆ ด้วย ได้ใจไปอีกกระบุง แถมตอนจบเพลง มาโกโตะวิ่งมาหน้ากล้องที่ฉายขึ้นจอใหญ่ จูบดอกไม้โชว์พร้อมส่งสายตาละลายใจ แฟนคลับเห็นแล้วกรี๊ดกันแทบสลบเลยเชียวค่ะ
กรี๊ด กันจนเหนื่อย ลูซิเฟอร์ก็เบรกอารมณ์เริ่มมาพูดคุย โดยคราวนี้สมาชิกคนอื่นๆ ได้ทักทายแนะนำตัวกันบ้าง แน่นอนว่าพูดภาษาไทยที่เตรียมตัวกันมาเป็นอย่างดี เริ่มที่โทวะ แนะนำตัวเอง ก่อนเลยว่า “สวัสดีครับ ผมชื่อโทวะ ขอเสียงหน่อย” แฟนก็กรี๊ด “ผมชอบคนไทย” แฟนก็กรี๊ด

ต่อด้วยซันตะที่มาพร้อมมุขน่ารักๆ ว่า “ผม ชื่อซันตะ ผมจะตีให้สุดชีวิต” เท่านั้นแฟนๆ ก็ระเบิดเสียงกรี๊ดให้กำลังใจพ่อหนุ่มมือกลองที่ออกมาเรียกเรตติ้งแข่งกับ เพื่อนไม่ได้ยกใหญ่เลย ก็น่ารักขนาดนี้นี่นะ ต่อให้ออกมาเล่นข้างหน้าเวที ไม่ได้ แต่แฟนๆ ก็ปลื้ม
ตามมาด้วยพ่อหนุ่มจอมขโมยซีนยูกิ ด้วยประโยคโดนใจว่า “ยู กิ ผมหล่อมั้ย” แล้วแฟนๆ จะตอบอะไรไม่สำคัญ เพราะพ่อหนุ่มเล่นยืนยันตัวเองว่า “ผมหล่อที่สุด” ยูกิคงอยากพูดอะไรต่อ แต่ท่าทางจะไม่รอด เลยควักโพยมาดูซะเลย แล้วเลือกมาหนึ่งประโยคว่า “คนไทยน่ารักมาก” ก่อนจะจบด้วยมุขสุดฮากับการเลือกประโยคในโพยว่า “ In Restaurant ไม่ใส่ผักชี” แล้วสมาชิกทุกคนก็ช่วยกันใหญ่ “เอาด้วยๆๆๆ” เล่นเอาฮากันทั้งคอนเสิร์ต
ต่อด้วย หนุ่มมาโกโตะที่พูดมาเยอะมาก แต่...ฟังไม่ออกเลยซักประโยค แฟนๆ ตะโกน ห๊ะๆๆ เป็นระยะๆ และมึนงงไปตามๆ กัน ขอโทษด้วยนะมาโกโตะ วันหลังเราจะพกเครื่องแปลภาษาไปค่ะ

ปิดท้ายด้วยหนุ่มอัตทสึโร่ที่แค่ประโยคแรกก็น่ารักแล้ว ทักทายแฟนๆ ด้วย “รักนะ จุ๊บๆ ผมมาไกลมาก ดีใจที่ได้มาอีก มาเจอกันที่คอนเสิร์ต” ก่อนจะกลับไปมันกันต่อกับเพลง Tsubasa
แล้วคอนเสิร์ตก็เริ่มเข้าสู่ช่วงเพลงในจังหวะเบาๆ ลงมา ในเพลง Tokyo Ilussion หลังจากนั้น อัตทสึโร่ก็เปลี่ยนมาใช้กีต้าโปร่งโชว์ไลน์กีต้าสวยๆ คู่ไปกับยูกิที่ลีดกีต้าร์ด้วยอารมณ์บาดลึก กับเพลง Love&Pain ต่อด้วยเพลง Shooting Star ที่เพลงนี้ แฟนๆ บริเวณหน้าเวทีทำพร็อพเล็กๆ แต่น่ารักให้ลูซิเฟอร์โดยการเป่าฟองสบู่อยู่ริมๆ เวที แล้วช่วยกันพัดฟองสบู่ไปตรงกลางเวทีให้ล้อกับแสงไฟ เป็นความพยายามที่น่ารัก มากเลยค่ะ
จบช่วงเพลงฟังสบายๆ เข้าสู่ช่วงพูดคุยอีกครั้ง โดยมาโกโตะบอกว่า “เมื่อกี้ เอ่อ....” เริ่ม ประโยคเหมือนคนไทยคุยกันจริงๆ แล้วค่ะ “ไม่ใส่ผักชี” ฮากันอีกรอบ แถมสมาชิกในวงช่วยกันต่อมุขเหมือนเดิม เป๊ะเลย “เอาด้วยๆๆๆ” จากนั้นมาโกโตะก็เริ่มพูดๆๆ แบบเราฟังไม่ออกอีกครั้ง และเจ้าตัวคงจะรู้ว่าแฟนๆ ก็น่าจะฟังไม่ออก เลยหันมาส่งจูบไปทั่วแทนซะเลย ใช้เสน่ห์เข้าสู้นี่เอง ก่อนจะบอกแฟนๆ ว่า “ช่วยกันร้องหน่อย” ในเพลงต่อไป Orange, Junk City และ C no Binetsu

ใน ช่วงนี้ มาโกโตะเดินไปเล่นกับแฟนๆ ทั่วเวทีเลยค่ะ ที่เวทีฝั่งหนึ่งมีแฟนๆ โยนผ้าขึ้นไปให้ซับเหงื่อตอนมาโกโตะจะเดินไปอีกฝั่งพอดี เดินไปเกือบครึ่งเวทีแล้ว แต่สายตาคงเหลือบเห็น เลยเดินหันหลังกลับมาตามจังหวะดนตรีย่ำเท้ามาแต่ไกล มาเก็บผ้าผืนนั้นพร้อมส่งยิ้มให้อีกหนึ่งรอบ ก่อนจะเอาผ้าไปซับเหงื่อให้ยูกิที่อยู่อีกฝั่ง น่ารักเชียวค่ะ
พักพูดคุยกันอีกครั้ง คราวนี้มาโกโตะคงคิดว่า พูดเองคงแย่แล้ว ควักโพยออกมาดูอีกคน “ผม รักทุกคนนะ ผมคิดถึงทุกคนที่มานะ ดีใจที่ทุกคนมาดู ผมรักคุณ” และพูดมาอีกมากมาย ซึ่งเราเองก็ยังคงฟังไม่รู้เรื่องเหมือนเดิม แล้วจบท้ายด้วย “ช่วยกันร้องหน่อย” ก่อนจะเข้าเพลงต่อไปค่ะ
เวทีกลับมาร้อนระอุทะลุจุดเดือดกันอีกครั้งกับเพลง Lucy ด้วยดนตรีหนักหน่วง และอีกครั้งที่มาโกโตะแกล้งเพื่อนโดยการวิ่งไปกอดคอร้อง เพลงแล้วแกล้งหอมยูกิ ก่อนจะเปลี่ยนฝั่งไปเล่นกับอัตทสึโร่ ปล่อยโทวะยืนยิ้มไป เล่นเบสไปอยู่ข้างหลัง ในเพลงนี้ ช่วงที่เราชอบที่สุดคือช่วงที่ยูกิกับอัตทสึโร่ลีดกีต้าร์คู่กัน ใช้เสียงลีดกีต้าร์คนละคีย์ แต่แม่นเป๊ะมาก ประทับใจ

ตามติดมาด้วยเพลง Egovision ที่เร่งจังหวะให้ร้อนแรง ด้วยกลิ่นเพลงที่ให้บรรยากาศเซ็กซี่เล็กๆ ช่วงท้ายเพลงคงมันจัด เพราะพ่อหนุ่มมาโกโตะถึงขั้นลงไปนอนร้องเพลงกับพื้น ก่อนจะลุกขึ้นมาหยิบน้ำมาพ่นเล่นบนเวทีสนุกสนาน จากนั้น ยูกิออกมาโซโล่กีต้าร์โชว์ลีลาและเทคนิคสุดเจ๋ง ปล่อยให้เพื่อนๆ ได้พักเหนื่อยกันมั่ง ก่อนจะกลับมามันส์กันต่อใน Poker Face ที่ระหว่างเพลง มาโกโตะหยิบน้ำมาสาดใส่แฟนๆ ดับร้อน แล้วบิ้วต์ต่อด้วยการให้ยกมือซ้าย สลับชูมือขวา เสร็จแล้วกระโดดลงมาข้างล่างเวที ทำเอาแฟนคลับข้างหน้าแตกฮือปั่นป่วนกันไปหมด แต่ตอนจะกลับขึ้นเวทีนี่ซิ เราแอบฮา ตรงที่ว่ามาโกโตะเองคงกะว่าปีนขึ้นเองเท่ๆ ได้แน่ๆ แต่ไม่รอด สุดท้ายทีมงานต้องช่วยยกตัวขึ้น เป็นความฮาในแบบน่ารักๆ ก่อนจะปิดช่วงนี้ด้วย Labyrinth ที่ยังคงร้อนแรงต่อเนื่องไม่มีผ่อนอารมณ์เลย
ก่อนจะ พักเบรกอีกรอบ ซึ่งมาโกโตะยังคงรับหน้าที่พูดคุยกับแฟนๆ เหมือนเดิม และที่เหมือนเดิมยิ่งกว่าคือเราฟังไม่ออกว่าพูดอะไร ขอโทษแฟนๆ มาโกโตะด้วยนะคะ สุดปัญญาจริงๆ แล้วจึงปิดท้ายคอนเสิร์ต (ที่แฟนๆ ก็รู้ว่าไม่ท้ายที่สุดหรอก) ด้วยเพลง Midnight Crow ใน เพลงนี้เองที่มาโกโตะตั้งใจไปแกล้งโทวะ กอดคอ ร้องเพลง มองหน้า ทำท่าจะหอมแก้ม แต่ไม่กล้า คาดว่าโทวะจะใช้ความสงบและรอยยิ้มสยบความเคลื่อนไหวของมาโกโตะ ได้ผลชะงัดนักเชียว พอจบเพลง หนุ่มๆ ก็โบกไม้โบกมือล่ำลาแฟนๆ ก่อนจะเดินกลับเข้าไปหลังเวทีค่ะ

แน่ นอนว่าแฟนๆ จะปล่อยให้คอนเสิร์ตจบไปทั้งอย่างนี้ได้ยังไง เลยไม่มีใครยอมไปไหนเลย ตะโกนเรียกลูซิเฟอร์กันยกใหญ่ หนุ่มๆ เลยกลับออกมาตามคำเรียกร้องด้วยใบหน้าที่เนียนใสกิ๊ง เสื้อผ้าบางคนเปลี่ยนตัวใหม่มา พร้อมแล้วก็เริ่มเพลงสุดโปรดอย่าง Regret เพลงที่แฟนๆ ชื่นชอบและร้องตามกันเสียงดังลั่น แล้วตามด้วย Castaways ที่เพลงนี้ มาโกโตะก็ยังคงพยายามวิ่งไปแกล้งโทวะ และเป็นอีกครั้งที่ทำได้แค่มองหน้ายิ้มๆ แต่ไม่กล้าหอมแก้มเช่นเคยก่อนจะจบเพลงพร้อมอำลาแฟนๆ อีกครั้ง
และเป็น อีกครั้งที่แฟนๆ ก็ยังคงไม่ยอมกลับ และตะโกนเรียกลูซิเฟอร์อยู่อย่างนั้น ลูซิเฟอร์จึงออกมาอีกครั้งตามคำเรียก ร้อง แต่มาคราวนี้ บอกให้แฟนๆ ทุกคนช่วยกันร้องเพลงด้วย กับเพลง See You ซึ่งเพลงนี้เป็นเพลงที่แฟนๆ ร้องกันได้อยู่แล้ว เสียงร้องทั้งของมาโกโตะจึงสอดประสานไปกับเสียงแฟนๆ ที่ตั้งใจร้องกันเต็มที่ จบเพลงกันไปอย่างประทับใจ ก่อนจะกลับลงไปหลังเวที ซันตะถึงกับแจกไม้กลองให้แฟนๆ ปั่นป่วน ยูกิกับอัตทสึโร่ก็ไม่น้อยหน้า แจกปิ๊กกันเป็นว่าเล่น มาตกใกล้ๆ เราอันนึงด้วย เสียดายว่าไม่ได้มา ไม่อย่างนั้นจะเอามาเล่นเกมแจกแฟนๆ Talkateen ซะหน่อย
อังกอร์ ไป 2 รอบแล้ว ก็คิดว่าคงจบจริงๆ แล้วหละ แต่แฟนๆ เหมือนจะรู้ทัน ยังไม่มีใครยอมไปไหนเหมือนเดิม ยังคงตะโกนเรียกและรอลูซิเฟอร์อยู่เหมือนเดิม ก็เรียกกันขนาดนี้ ลูซิเฟอร์เลยจัดให้ เอาใจกันสุดๆ ออกมาอีกครั้งพร้อมกับบอกว่า “Last song แล้วนะ” แล้วปิดท้ายคอนเสิร์ตด้วยเพลงเดียวกันกับเพลงเปิดคอนเสิร์ต เป็นเพลงที่มีความหมายทั้งกับลูซิเฟอร์เองและแฟนคลับ เพลง Datenshi Blue

มา ถึงตรงนี้ ทำให้รู้สึกว่า คอนเสิร์ตครั้งนี้จบแล้วจริงๆ จบอย่างสมบูรณ์แบบ สมใจคอเจร็อค และเริ่มๆ จะใจหาย เพราะบรรยากาศต่อจากจบเพลงทำให้รู้ว่า ลูซิเฟอร์เองก็ไม่อยากให้คอนเสิร์ตจบ แฟนคลับก็ยิ่งไม่อยากให้คอนเสิร์ตจบ สมาชิกทุกคนยกมือไหว้ขอบคุณแฟนคลับ เป็นการขอบคุณที่เรารู้สึกว่าพวกเค้าขอบคุณออกมาจากหัวใจจริงๆ รู้สึกได้เลยว่า พวกเค้ารับรู้ความรู้สึกที่แฟนคลับส่งไปให้พวกเค้า และพวกเค้าเองก็รู้สึกอย่างเดียวกัน ช่วงนี้เลยเหมือนเพื่อนๆ มางานเลี้ยงและงานเลี้ยงกำลังจะจบ การล่ำลากันเป็นบรรยากาศแบบสบายๆ ดูเป็นกันเอง ขอถ่ายรูปกัน โดยลูซิเฟอร์ขอให้ทีมงานออกมาและถ่ายรูปจากบน เวทีลงมาโดยมีแฟนๆ อยู่ข้างหลัง ขอให้ทุกคนช่วยกันพูด datenshi blue ตอนถ่ายรูป ทั้งที่จะนับเลขแบบไทยยังลำบาก แต่ก็ตั้งใจทำกันสุดๆ ทั้งสนุกสนาน ทั้งประทับใจ และสุดท้ายจริงๆ ลูซิเฟอร์ขอให้แฟนๆ ทุกคนจับมือกัน และร่วมกระโดดไปกับพวกเค้าเป็นการปิดท้ายคอนเสิร์ตที่สุด ประทับใจจริงๆ
แม้ คอนเสิร์ตจะจบไปแล้ว และไม่รู้ว่าอีกนานแค่ไหนที่ลูซิเฟอร์จะมีโอกาสกลับมาเล่นคอนเสิร์ตที่ ประเทศไทยอีกครั้ง แต่หลังจากนี้เราเชื่อว่าแฟนๆ ก็ยังจะคงรักและรอคอยลูซิเฟอร์ รอคอยคอนเสิร์ตดีๆ แบบนี้ต่อไป อยากบอกว่า พวกคุณสุดยอดจริงๆ ลูซิเฟอร์...
Special Thanks: บริษัท U7 และ P-Aha
ที่มา: - www.talkateen.com หากมีการนำออกไปใช้ กรุณาลงเครดิตของเว็ปให้ครบถ้วนด้วยนะคะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น